ต้องบอกเลยว่าปัจจุบันนี่การดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคองเป็นสิ่งที่หลายๆ คนใส่ใจและให้ความสำคัญ ส่วนหนึ่งก็เพราะว่าการดูแลคนป่วย เราไม่ได้เน้นไปที่การดูแลที่ร่างกายของเขาอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังต้องมีการดูแลจิตใจอีกด้วย บางคนอาจจะเน้นว่าต้องให้การรักษาเต็มที่ กินอาหารตามที่แพทย์แนะนำ โดยลืมไปว่าความสุขของผู้ป่วยอยู่ที่ตรงไหน อย่างไรก็ดี เทคนิคการดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคองมีดังต่อไปนี้
1.ทำความเข้าใจกับใจของคนไข้
สำหรับสิ่งแรกที่คนดูแลจะต้องเข้าใจก็คือ ใจของคนไข้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากคนดูแลคือลูก หลาน สมาชิกในครอบครัวที่รักใคร่กันดีอยู่แล้ว จะต้องทำความเข้าใจกับสถานการณ์นี้ให้ได้มากที่สุด โดยการทำความเข้าใจกับคนไข้ ทำได้ง่ายๆ เลยก็คือการสอบถามว่าคนไข้ต้องการสิ่งใด และไม่ต้องการสิ่งใด ซึ่งบางกรณี หากว่าคนไข้อยู่ในภาวะที่ไม่มีสติสัมปชัญญะ หรือว่าพูดไม่ได้ คนที่ดูแลจะต้องพยายามหาทางสื่อสารกับคนไข้ให้ได้ เช่น การให้ปากกาเขียนหนังสือ หรือจะเลือกเป็นการให้กระพริบตา ส่งคำใบ้ต่างๆ อย่าท้อแท้กับการสอบถามความต้องการของคนไข้ เพราะจะทำให้ทั้งเราเองและคนไข้ไม่เข้าใจกัน นำไปสู่ปัญหาที่เกิดขึ้นได้ในอนาคต
2.ทำความเข้าใจกับตนเอง
คนดูแลก็คือหนึ่งในบุคคลที่แบกรับปัญหาและสิ่งต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น โดยอย่าลืมทำความเข้าใจกับตนเองให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะการทำความเข้าใจกับตนเอง ก็จะช่วยให้เรานั้นมีความสุข หรือดูแลคนป่วยได้ดีกว่าเดิม ไม่ควรหมกมุ่นอยู่กับความเครียด ประการสำคัญที่สุดก็คือการพยายามหาสิ่งผ่อนคลาย งานอดิเรกเล็กๆ น้อยๆ ที่ยังสามารถอยู่กับคนป่วยได้ เช่น การดูซีรีส์ยามว่าง หรือการอ่านหนังสือ เพราะว่าจะช่วยให้ลืมความเครียด ความกดดันของชีวิตจริงได้ การปลูกต้นไม้ในพื้นที่เล็กๆ เช่น ในบ้านก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน เพราะว่าการปลูกต้นไม้จะทำให้เราเข้าใจถึงความหมายของการมีชีวิตอยู่ และยังมีความหวัง รู้สึกได้รอคอยบางอย่าง การปลูกต้นไม้เองก็ช่วยทำให้เข้าใจสัจธรรมของชีวิตได้อีกด้วย อย่างไรก็ดีการทำความเข้าใจกับตนเอง ควรเขียนไดอารี่บันทึกความรู้สึกไว้ด้วยอีกทางหนึ่งก็ช่วยได้เช่นกัน
และนี่ก็คือสิ่งที่สามารถทำได้ สำหรับคนที่ต้องการเทคนิคการดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคอง สิ่งสำคัญมีเพียงสองสิ่งเท่านั้นก็คือการรักษากายและการรักษาใจ เพราะสองสิ่งนี้จะช่วยให้เกิดความผ่อนคลายและความสุขสำหรับตนเองได้อีกด้วย อาจจะกล่าวได้ว่าการรักษาทางร่างกาย ก็จำเป็นอย่างมาก แต่การรักษาทางใจจำเป็นยิ่งกว่านั่นเอง